
สีละลายในน้ำ
มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ สีจากธรรมชาติและสีสังเคราะห์ โดยส่วนใหญ่แล้วทาง cosmetic จะนิยมใช้สีสังเคราะห์มากกว่าเนื่องจากมีความคงตัวมากกว่าสีที่มาจากธรรมชาติ แต่ยังมีปัจจัยที่อาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของการจางของสี (Fade) หรือโครงสร้างสี ดังนี้
-
ความร้อน
การทำผลิตภัณฑ์บางชนิดในกระบวนการผลิตจะต้องมีการใช้ความร้อนจนถึงขั้นตอนการบรรจุ อุณหภูมิโดยส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่ 70-90 องศา ซึ่งโครงสร้างของสีละลายน้ำบางชนิดไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงได้ เนื่องจากความร้อนไปทำลายสารประกอบอินทรีย์และความเข้มเชิงโมลของสีจึงทำให้ความเข้มสีลดลงหรือสีจางลง (Fade)
-
ค่าความเป็นกรดด่าง
ผลิตภัณฑ์บางชนิดมีค่าความเป็นกรดด่างไม่เท่ากันซึ่งค่าความเป็นกรดด่างโดยทั่วไปที่ปรากฏอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจะอยู่ที่ pH 3-11 แต่สีละลายน้ำโดยส่วนมากโครงสร้างสีจะมีพันธะที่ยึดเกาะกันต่ำ เนื่องจากโครงสร้างส่วนใหญ่เป็น Sulfonate group ซึ่งมีประจุลบ ยกตัวอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์ AHA Gel มีค่า pH 3-3.5 แล้วมีการเติมแต่งสีแดงลงผลิตภัณฑ์ มีความเป็นไปได้ว่าความคงตัวของสีอาจจะเปลี่ยนแปลงไป จากสีแดงเป็นสีส้ม เป็นต้น
-
รังสี UV
คือรังสีที่มีช่วงคลื่นความร้อนที่แตกต่างกัน โครงสร้างของสีบางชนิดไม่สามารถทนต่อรังสี UV ได้เนื่องจากรังสี UV ไปทำลายพันธะ Carboxyl group ของโครงสร้างสีจึงทำให้ความเข้มสีลดลงหรือสีจางลง (Fade)

สีละลายในน้ำมัน
-
ตัวทำละลาย
สีละลายน้ำมัน คือ สีที่สามารถละลายใสได้ในส่วนของน้ำมันหรือองค์ประกอบของสารที่ไม่มีขั้วหรือมีความเป็นขั้วน้อย เช่น ether หรือ ester แต่จะไม่ละลายในส่วนของ silicone แต่ทั้งนี้ ในส่วนของน้ำมันยังต้องมาพิจารณาอีกว่าองค์ประกอบของ Caboxyl group และ Hydrocarbon Chain ประกอบกันด้วยพันธะชนิดใดบ้าง และมีความยาวพันธะแค่ไหน ซึ่งส่วนนี้จะมีผลอย่างมากต่อการละลายสีในน้ำมันในอัตราส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละชนิดของน้ำมันและชนิดของสี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสีนั้นมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญของการเกิดปฏิกิริยา oxidation ของน้ำมันที่เป็นตัวทำละลายด้วย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของน้ำมันย่อมมีการส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงของพันธะของสีที่จับอยู่กับน้ำมัน จึงอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงพันธะและส่งผลถึงการเปลี่ยนโครงสร้างของสี และในที่สุดจะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านลักษณะทาง physical จึงเห็นเป็นการเปลี่ยนแปลงของสีเกิดขึ้น
-
อุณหภูมิ
มีส่วนสำคัญมากต่อการละลายของสี ซึ่งจะทำให้สีละลายเร็วขึ้น แต่ส่งผลกระทบดังนี้ การเร่งปฏิกิริยาด้วยความร้อนจะทำให้วัตภาคของสีและตัวทำละลายวิ่งชนกันได้เร็วขึ้นแต่ทั้งนี้การวิ่งชนกันของสีและตัวทำละลายอาจทำให้เกิดการแตกของโมเลกุลสีทำให้สีเข้มขึ้นหรืออาจอ่อนลงก็ได้ ต้องพิจารณาตามโครงสร้างของสีนั้นๆ และองค์ประกอบเสริมของสีนั้นๆโดยเฉพาะ
3.แสง
ซึ่งจะเกี่ยวพันกับปฏิกิริยา oxidation ดังกล่าวไปข้างต้น