1. Hydrolyzed Keratin (เคราติน) จากประเทศฝรั่งเศส (FRANCE) โปรตีนเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญ ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิส (hydrolysis) เพื่อให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวบริเวณเล็บได้ง่าย โดยสามารถทั้งปกป้องและฟื้นฟูสภาพเล็บ จมูกเล็บ ให้แลดูมสุขภาพดีขึ้น

2. Vitamin E (วิตามินอี) จากประเทศเยอรมนี (GERMANY) วิตามินอีช่วยปกป้องผิวด้วยการต้านอนุมูลอิสระ ก่อนที่อนุมูลอิสระเหล่านั้นจะไปจับตัวต่อเนื่องซึ่งทำให้สามารถชะลอวัย (anti-aging) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการวิจัยมากมาย ยืนยันว่า Vitamin E Acetatสามารถเร่งการสร้าง enzyme ในผิว ปกป้องอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้

3.Rice Bran Oil (น้ำมันรำข้าว) จากประเทศญี่ปุ่น (JAPAN) มีสรรพคุณในการชะลอความแก่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีและเอนไซม์ที่เกี่ยวกับการสลายคอลลาเจนที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง

4. Jojoba Oil (น้ำมันโจโจบาร์) จากประเทศอินเดีย (INDIA) ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในน้ำมันโจโจ้บา ยังมีแร่ธาตุทองแดงโครเมียม ไอโอดีน ซิลิคอน และสังกะสี นอกจากนั้นยังมีวิตามินอี และบีรวม
ซึ่งล้วนแต่สำคัญสำหรับผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ

5.Macadamia Oil (น้ำมันแมคคาเดเมีย) จากประเทศอิตาลี (ITALY) ช่วยทำให้ผิวนุ่มนวล น้ำมันแมคคาเดเมียนัทเป็นน้ำมันที่สามารถซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย
เหมาะสำคัญคนที่มีผิวแห้งและเหี่ยวย่น

6.Avocado Oil (น้ำมันอโวคาโด) จากประเทศเยอรมนี (GERMANY) ใช้บำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวแห้งซึ่งจะช่วยทำให้คุณมีผิวพรรณที่ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาได้

7.Rose Oil (น้ำมันกุหลาบ) จากประเทศอินเดีย (INDIA) ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและได้รับการฟื้นบำรุง ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ช่วยให้ผิวนุ่มนวล เรียบเนียนยิ่งขึ้น
ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อสมานแผล เหมาะสำหรับผิวบอบบาง (Sensitive Skin) ทำหน้าทีjเป็นเสมือนเกราะป้องกันความชุ่มชื้นและเก็บกักความชุ่มชื้นให้คงอยู่ในผิวคุณได้ยาวนานถึง 24 ชม.