Key Ingredient :

1. ASHWAGANDHA OIL จากประเทศอินเดีย (INDIA) น้ำมันอัชวากันธา เป็น adaptogenic herb ช่วยลด stress,ลดปริมาณของ cortisol ซึ่งช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองของหนังศีรษะ ทำให้ผมหลุดร่วงน้อยลง และเส้นผมที่งอกใหม่แข็งแรง มีสุขภาพดี น้ำมันอัชวากันธาอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมและป้องกันการแตกหักของเส้นผม นี่คือเหตุผลที่น้ำมันอัชวากันธาเพื่อการงอกใหม่ของเส้นผมจึงได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในหมู่ผู้ชายและผู้หญิง ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม บรรเทาอาการคันและขจัดเซลล์ที่ตายแล้วบนหนังศีรษะ มีส่วนประกอบของโพแทสเซียมและไนเตรต และมีวิตามินซีปริมาณสูงช่วยบำรุงเส้นผมตามธรรมชาติ ยังมี โปรตีน วิตามินซี ธาตุเหล็ก กลูโคส แทนนิน โพแทสเซียม และไนเตรต ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมที่ดีในน้ำมันอัชวกันธา ธาตุเหล็กและกลูโคสช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผม ทำให้ผมหนาและมีน้ำหนักมากขึ้น ช่วยบรรเทาอาการผมร่วงโดยช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ดีเอชอีเอ หรือ ดีไฮโดรอิพิแอนโดรสเตอโรน มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อราจะช่วยทำให้หนังศีรษะสงบลงและรักษาความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว น้ำมันอัชวากันธาเพื่อควบคุมการระคายเคืองหนังศีรษะ น้ำมันอัชวากันธามีฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้รูขุมขนของคุณมีสุขภาพดี ช่วยลดรังแค อาการคัน โรคสะเก็ดเงิน โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง และอาการแพ้อื่นๆ ที่เกิดจากการอักเสบบนหนังศีรษะ เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและซีบัมบนหนังศีรษะของคุณโดยจำลองการผลิตแอนโดรสเตอโนโลน น้ำมันอัชวากันธาช่วยบำรุงหนังศีรษะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะและเส้นผม พร้อมฟื้นฟูผมแห้งเสียชี้ฟู คอลลาเจนและซีบัมยังช่วยปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมจากแสงแดดและมลภาวะอีกด้วย อีกทั่งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบนหนังศีรษะและเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผม รวมถึงช่วยขจัดรังแค ดังนั้น การใช้น้ำมันอัชวากันธากับเส้นผมจึงมีศักยภาพในการช่วยฟื้นฟูผมหงอก ย้อนกลับผมหงอกก่อนวัย น้ำมันอัชวากันธาสำหรับผม ยังช่วยเพิ่มการผลิตเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้ผมของคุณมีสีสัน ประโยชน์ ของน้ำมันอัชวากันธา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผมที่ผ่านการดัดธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้กับผมเสียหรือผมทำสีได้อีกด้วย

2. BHRINGRAJ OIL จากประเทศอินเดีย (INDIA) ภริงราช หรือ Eclipta alba เป็นพืชในวงศ์ทานตะวัน ที่พบได้ในป่า Bhringraj อยู่ในรายชื่อสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเส้นผม มีการใช้ Bhringraj ในการเตรียมน้ำมันบำรุงผมมาแต่โบราณเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี รวมถึงลดการหลุดร่วงของเส้นผม แต่คำกล่าวอ้างนี้ไม่ได้มาจากตำราโบราณเพียงอย่างเดียว จากการศึกษาในสัตว์ 2 ครั้ง Bhringraj ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมเท่านั้น แต่ยังมีประสิทธิภาพมากกว่า Minoxidil ซึ่งเป็นวิธีการรักษาแบบเดิมอีกด้วย ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการใช้ Bhringraj สามารถกระตุ้นการสร้างรูขุมขน และจึงทำให้รูขุมขนเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นในระยะ anagen ซึ่งเป็นระยะการเจริญเติบโตของเส้นผม และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยไม่มีผลข้างเคียง เช่น รอยแดง สะเก็ด และอาการคัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้กับยามินอกซิดิล แม้ว่าการศึกษาจะทำในหนูทดลอง แต่หลักฐานก็ดูน่าเชื่อถือ ประกอบด้วยส่วนประกอบทางชีวภาพหลากหลายชนิด ได้แก่ ฟลาโวนอยด์ ไฟโตสเตอรอล โพลีเปปไทด์ และคูเมสแตน เชื่อกันว่าส่วนประกอบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มจำนวนและขนาดของรูขุมขน ช่วยฟื้นฟูรูขุมขนและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรงและสุขภาพดี

3. ROSEMARY OIL จากประเทศอินเดีย (INDIA) Carnosic Acid ในโรสแมรี่ตัวช่วยที่ทำให้ผมของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น จากการวิจัยในปี 2015 พบว่าโรสแมรี่มีส่วนช่วยในการป้องกันผมร่วงได้โดยตรง Carnosic Acid มีคุณบัติฟื้นฟูการเจริญเติบโตของเส้นผม กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหนังศรีษะ ช่วยให้เส้นผมและหนังศรีษะแข็งแรงขึ้น ลดอาการผมร่วง ลดอาการคันหนังศรีษะ ลดการเกิดรังแค ลดอาการอักเสบของหนังศรีษะ ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม และยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายขณะใช้

4.BERGAMOT OIL จากประเทศฝรั่งเศส(FRANCE) น้ำมันหอมระเหยมะกรูด/เบอร์กาม็อท มีสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็น ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่ลอยในอากาศ และยังช่วยกลบหรือกำจัดกลิ่นไม่พึง บำบัดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด ช่วยบรรเทาความกลัวความกังวล ภาวะซึมเศร้า บรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง มีฤทธิ์ยับยั้งจุลินทรีย์ของผิวมะกรูดอยู่ที่ส่วนน้ำมันหอมระเหย มะกรูดสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อจุลินทรีย์ได้เนื่องจากมีสารเจอรานิออล นิโรลิออล ลินาโลออล และเทอร์พีนีออล ซึ่งเป็นสารกลุ่มเทอร์พีนอยู่ในน้ำมั

5.COCONUT OIL จากประเทศไทย(THAI) น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันพืชที่มีคุณสมบัติเป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizer) อีกทั้งยังมีสารปฏิชีวนะ (จากโมโนลอริน) และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (จากวิตามินอี) น้ำมันมะพร้าวจึงมีคุณสมบัติและคุณประโยชน์ในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ ในหลายๆ ด้าน ช่วยปรับสภาพเส้นผม น้ำมันมะพร้าวเป็นเหมือนคอนดิชันเนอร์ธรรมชาติ ที่ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม และยังมีวิตามินอีที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผมอีกด้วย ช่วยปรับสภาพหนังศีรษะ ในน้ำมันมะพร้าวมีสารปฏิชีวนะที่คอยทำลายเชื้อโรค การใช้ น้ำมันมะพร้าวหมักผม จะช่วยไม่ให้หนังศีรษะแห้ง และป้องกันการเกิดรังแคด้วย อีกทั้งยังมีวิตามินอีที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงทำให้พื้นผิวบนหนังศีรษะมีความชุ่มชื้นและสุขภาพดี ช่วยให้เส้นผมมีสุขภาพดี เส้นผมประกอบไปด้วยส่วนนอก (Cuticle) ที่ทำหน้าที่หุ้มส่วนใน (Cortex) ซึ่งหากส่วนนอกอยู่ในสภาพดี ไม่ฉีกขาด เส้นผมก็จะปกติ มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อการบิดงอ ส่วนผมส่วนในก็จะประกอบไปด้วยโปรตีนที่เรียกว่า เคราติน ซึ่งโปรตีนตัวนี้จะสูญเสียหรือสลายตัวไปหากเส้นผมถูกทำร้าย เช่น การดัดผม การทำสีผม หรือการทำเคมีกับผมทั้งหลาย ซึ่งการบำรุงผมด้วยน้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดความเสียหายของเส้นผมได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติยึดเกาะกับโปรตีนของเส้นผมได้ดี อีกทั้งยังมีโมเลกุลเล็กจึงแทรกซึมเข้าไปในเส้นผมได้สะดวก