1.AVENA SATIVA (OAT) MEAL EXTRACT จากประเทศสิงคโปร์ (SINGAPORE) สารสกัดจากข้าวโอ๊ต สารสกัดจากข้าวโอ๊ต ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิวเก็บกักความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิว ปรับสภาพ และบรรเทาอาการผิวแห้งกร้าน และหยาบกระด้าง ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง เหมาะสำหรับใช้รักษาสภาพผิวอักเสบ

2.ALOE BARBADENSIS LEAF EXTRACT  จากประเทศเม็กซิโก (MEXICO) ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดอาการแพ้ระคายเคือง ช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้นกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม ลดเลือนริ้วรอยให้จางลง ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV

3.ROSE HIP OIL จากประเทศอินเดีย (INDIA) ประกอบได้ด้วยวิตามินเอ ช่วยสมานแผกล ลดรอยแผลเป็น ช่วยซ่อมแซมรอยแผลเป็น ทำให้ผิวมีความนุ่ม ยืดหยุ่น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นสาร Anti-Oxidant อีกด้วย อีกทั้งยังมี Oleic, linoleic และ linolenic acid ซึ่งเป็นกรดไขมันจากธรรมชาติ จะช่วยบำรุงผิวพรรณ โดยจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ต้านการอักเสบ ซึ่งข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือเปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ทำให้มีผิวที่เนียน นุ่ม และคงความชุ่มชื้นผิว สามารถใช้ได้กับผิวแพ้ง่าย

4.EVENING PRIMROSE OIL ORGANIC จากประเทศอังกฤษ (ENGLISH) น้ำมันดอกอีฟนิงพริมโรสออร์กานิค มีส่วนประกอบของ วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ Fatty Acid และ Gamma Linoleic Acid สูง ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ จึงเป็น Moisturizer ที่ดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี กระจ่างใส และมีชีวิตชีวา นอกจากนั้นยังช่วยจัดการกับความแห้งกร้าน ริ้วรอย รอยแดง การระคายเคือง ลดรอยแผลเป็น และ บรรเทาอาการอักเสบ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสยังให้ความชุ่มชื้น อย่างอ่อนโยนให้กับผิว สามารถใช้ได้กับผิวที่เป็นสิว กลาก และโรคสะเก็ดเงิน หากเมื่อนำน้ำมันชนิดนี้มาใช้กับเส้นผม จะช่วยให้ความชุ่มชื่น และบำรุงหนังศีรษะ เพื่อเสริมสร้างเส้นผม รวมทั้งยังบรรเทาอาการคัน แห้ง และการอักเสบ

5.CARROT OIL จากประเทศเยอรมนี (GERMANY) น้ำมันแครอทช่วยในการ Detox ผิวคืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวป้องกันและลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ทำให้ริ้วรอยแลดูจางลง และยังช่วยในการรักษาอาการอักเสบของผิว น้ำมันแครอทอุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินอี และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่ช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น นอกจากนี้ยังมีสารเบต้าแค โรทีนจากน้ำมันแครอท ที่ช่วยทำให้สีผิวแลดูสม่ำเสมอ