1. Organic Argan Oil มาจากประเทศเปรู (Peru) Argan Oil Organic Deodorised สกัดจากอาร์แกนออยล์บริสุทธิ์ 100% จากโมร็อคโค เกรด Organic ใช้ได้ทั้งผิวหน้า และเส้นผม เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย ฟื้นฟูผมเสีย แตกปลาย Argan Oil หรือขนานนามว่า Liquid Gold น้ำมันทองคำหรือคนในท้องถิ่นขนานนามว่า “Tree of Life” สกัดจากเมล็ด ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในประเทศโมร็อกโก Argan เติบโตตามธรรมชาติในพื้นที่กึ่งทะเลทรายของโมร็อกโกทางตกเฉียงใต้ Argan Oil อุดมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์รวมทั้งวิตามินอีและกรดไขมันมาก คุณสมบัติที่ทำให้มันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผมและผิว เป็นตัวเลือกในเครื่องสำอางยอดนิยมมากมาย มีความโดดเด่นในด้านการบำรุง ให้ความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว น้ำมันอุดมไปด้วยโอเมก้า-9 กรดโอเลอิกและกรดไลโนเลอิกโอเมก้า-6 และสารต่อต้านอนุมูลอิสระ น้ำมัน Argan บริสุทธิ์อินทรีย์จะมีประสิทธิภาพในการรักษาผิวแห้ง กลาก โรคสะเก็ดเงิน สิว และแดดเผา ผิวคันระคายเคือง และเป็นน้ำมันยอดนิยมที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั่วทั้งร่างกาย ใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

2. Organic pumpkin seed oil น้ำมันเมล็ดฟักทองบริสุทธิ์สกัดเย็นเกรดออแกนิค หรือที่ในต่างประเทศเรียกว่าน้ำมัน pepita เป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดฟักทองหรือ Cucurbita pepo น้ำมันเมล็ดฟักทองบริสุทธิ์สกัดเย็นอุดมไปด้วยวิตามิน, ทริปโตเฟน, กรดไขมันไม่อิ่มตัว พร้อมด้วยกรดไลโนเลอิค (โอเมก้า 6) และกรดโอเลอิค (โอเมก้า 9) กรดไขมัน ที่มีมีประโยชน์เพื่อการบำรุงสุขภาพผิวและเส้นผม น้ำมันเมล็ดฟักทองบริสุทธิ์สกัดเย็น ผลิตจากเมล็ดฟักทองออร์แกนิก ที่ผ่านการรับรองคุณภาพด้วยการนำเมล็ดมาผ่านกระบวนการสกัดเย็นเพียงครั้งเดียว (First cold-press) โดยไม่นำกากเมล็ดฟักทองที่สกัดแล้วมาสกัดซ้ำ เพื่อคุณภาพและความบริสุทธิ์สูงสุด โดยควบคุมอุณหภูมิในระหว่างกระบวนการสกัดเย็นทั้งหมดเพื่อรักษาองค์ประกอบที่เป็นประโยชน์สูงสุดและคุณภาพที่ดีที่สุด สินค้าเป็นผลิตภัณฑ์วัตถุดิบธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ปราศจากสารเคมี, สารเติมแต่งกลิ่น, สี, สารกันหืนและสารกันบูด ผ่านกระบวนการสกัดเย็น Cold-pressed หรือ Infused ที่ควบคุมอุณหภูมิตามมาตรฐานระดับสากลตลอดกระบวนการผลิตเพื่อคงคุณค่าและปริมาณสารสำคัญที่มีประโยชน์ตามธรรมชาติของพืชไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุด สามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับเป็นส่วนผสมในสูตรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ น้ำมันธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ชนิด Extra Virgin (unrefined) สกัดเย็น First Cold-Pressed และน้ำมันธรรมชาติบริสุทธิ์ 100% ชนิด Virgin (unrefined) สกัดเย็น Cold-Pressed ไม่ผ่านกระบวนการดึงสีและดึงกลิ่น (non-decolorized and non-deodorized) สีของน้ำมันในแต่ละล็อตของการผลิตอาจจะเเตกต่างกันและอาจมีตะกอนเล็กน้อยซึ่งเป็นลักษณะปกติของผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ

3. Organic Camellia Seed Oil  น้ำมันเมล็ดคาเมลเลียสกัดเย็นเกรดออแกนิค เคล็ดลับสุดยอดเพื่อความงามแบบสาวญี่ปุ่น Camellia oil ได้มาจากการสกัดเย็นเมล็ดของต้น Camellia ไม้พุ่มมีดอกในวงศ์ชา (Theaceae) จึงมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าน้ำมันเมล็ดชา (tea seed oil) ในประเทศญี่ปุ่น Camellia oil รู้จักกันในชื่อของ “Tsubaki oil” ซึ่งได้รับความนิยมใช้เพื่อดูแลความงามของผิวพรรณและเส้นผมมานานนับพันปี กล่าวกันว่า Camellia oil ช่วยทำให้สาวญี่ปุ่นมีผิวสดใสขาวอมชมพูดังผลลูกพีชและมีเล็บสวยสุขภาพดี Camellia oil มีคุณสมบัติในการเป็นตัวปรับสภาพผิวและเส้นผมที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากมี monounsaturated oleic aid กรดไขมันที่ดีต่อผิว ในระดับสูงถึง 80%โดยประมาณ สามารถเข้ากันได้ดีกับน้ำมันใต้ผิวหนังมนุษย์ จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และยังมี polyunsaturated essential fatty acid ทั้ง Linoleic acid และ α‐linolenic acid อีกด้วย ไม่ก่อให้เกิดกการอุดตันหรือความมันบนใบหน้า เนื่องจากในเมล็ดของ Camellia มีสารแทนนิน (Tannin) ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน (Astringent) Camellia oil จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีของน้ำมันที่อุดมด้วย oleic acid ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันและซ่อมแซมรอยแผลเป็น เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาเรื่องสิว วิตามิน A, B, C, E และ antioxidants ใน Camellia oil ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและการเผชิญต่อมลภาวะ Camellia oil ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายและด้วย bioactive compound ที่หลากหลาย ได้แก่ sterols, squalene, tocopherols และ phenolics สารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยมจากธรรมชาติที่มีอยู่ใน Camellia oil จึงช่วยต่อต้านลดและเรือนริ้วรอย, บำรุงและส่งเสริมให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดี

4. Organic Jojoba Oil  โจโจ้บาออยล์ออร์กานิค เป็นน้ำมันสีเหลืองทอง สกัดมาจากเมล็ดของต้น Simmondsia chinensis (Jojoba) ซึ่งเป็นพืชท้องถิ่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของของแม็กซิโก, ทางใต้ของรัฐอริโซนา และพื้นที่ใกล้เคียง ชาวอเมริกันพื้นเมืองใช้ Jojoba oil เป็นยาสมุนไพรพื้นบ้าน โดย Jojoba Oil Organic มีลักษณะทางกายภาพค่อนข้างใกล้เคียงกับน้ำมันที่ผลิตขึ้นตามธรรมชาติที่ผิวหนังของเรา ส่งผลให้ผิวสร้างสมดุลในการผลิตน้ำมัน จึงช่วยสามารถทดแทนและให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังได้ดี นอกจากนี้ Jojoba Oil Organic ยังมีค่า Comedogenic rate ที่ต่ำ จึงทำให้เกิดการอุดตันได้น้อย และยังสามารถปรับสมดุลของการสร้างน้ำมันบนใบหน้าในคนที่ผิวมัน มีการสร้างน้ำมันจากต่อมไขมันออกมามากเกินไป ในปัจจุบันเรามีการนำ โจโจ้บาออยล์ มาใช้ในหลายรูปแบบ โดยเฉพาะในเครื่องสำอาง สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม โจโจ้บาออยล์ มีคุณสมบัติโดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น และฟื้นบำรุงผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง, ผิวแห้งมาก หรือ ผิวแสบลอกจากการโดนแสงแดด

5. Organic Evening Primrose Oil  น้ำมันดอกอีฟนิงพริมโรสออร์กานิค มีส่วนประกอบของ วิตามิน แร่ธาตุต่างๆ Fatty Acid และ Gamma Linoleic Acid สูง ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถผลิตขึ้นมาเองได้ จึงเป็น Moisturizer ที่ดี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี กระจ่างใส และมีชีวิตชีวา นอกจากนั้นยังช่วยจัดการกับความแห้งกร้าน ริ้วรอย รอยแดง การระคายเคือง ลดรอยแผลเป็น และ บรรเทาอาการอักเสบ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสยังให้ความชุ่มชื้น อย่างอ่อนโยนให้กับผิว สามารถใช้ได้กับผิวที่เป็นสิว กลาก และโรคสะเก็ดเงิน หากเมื่อนำน้ำมันชนิดนี้มาใช้กับเส้นผม จะช่วยให้ความชุ่มชื่น และบำรุงหนังศีรษะ เพื่อเสริมสร้างเส้นผม รวมทั้งยังบรรเทาอาการคัน แห้ง และการอักเสบ

6.TOCOPHERYL ACETATE  มาจากประเทศเยอรมนี (Germany)คือ Vitamin E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเร่งการสร้าง Enzyme ในผิว ช่วยดักจับอนุมูลอิสระ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว นอกจากนี้ ยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และรักษารอยแผลเป็นได้เป็นอย่างดี ซึ่งในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเวชสำอางนิยมใช้ Vitamin E Acetate เนื่องจากมีความเสถียร และสามารถทนต่อรังสี UV ได้ดีกว่าวิตามินอีตามธรรมชาติ