Key Ingredient :

1. Scalpatron VGP  Scalpatron VGP : สารสกัดจากพืช 3 ชนิด

• คนทีสอ  เป็นสมุนไพร ใช้ลดอาการอักเสบและคัน มีมากในเขตร้อน
• เหล่งตาเช้า เป็นสมุนไพร ใช้เป็นยาลด อาการปวดขับความร้อนชื้น
• โชวู เป็นสมุนไพรดั้งเดิมมีมากในจีน ที่นิยมสำหรับเส้นผม บำรุง ลดผมร่างผมบาง ทำไห้ผมดำเงางามชลอ การเกินผมหงอก

Scalpatron VGP – ทำงาน 2 function คือ เป็น anti oxidant ลดการหลั่ง excess sebum และช่วยในเรื่อง soothing จากการอักเสบ ลดอาการคันหนังศรีษะ การแดงอักเสบ และลดรังแค

ทดสอบที่ 0.5% เริ่มเห็นผลใน 2 อาทิตย์ รังแคลดลงอย่างเห็นได้ชัด

2. Salixin Organic Extract – 850NP จากประเทศเดนมาร์ก (Denmark ) Salixin Organic Extract 800NP หรือ Fermented Red Willow Bark

จุดเด่นและกลไกการทำงาน

• ยับยั้งการสร้าง biofilm ของเชื้อยีส Candida Albicans ได้ 100% กลไกที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างตรงจุด
• Active compound ถึง 16 ชนิด ในปริมาณสูงมากและหาได้ยากในท้องตลาด ทำให้ออกฤทธิ์ต้านอักเสบอย่างรวดเร็วและเห็นผลภายใน 10 นาที
• เพิ่มการออกฤทธิ์ด้วยกระบวนการหมักพิเศษจาก Lactic Acid Bacteria 4 สายพันธุ์
• มีผลทดสอบ in-vitro และอาสาสมัครที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (atopic dermatitis), รังแคเรื้อรัง และเหงือกอักเสบในผู้สูงอายุ
• มีผลทดสอบความอ่อนโยน ความปลอดภัย และ certificate มากมาย

กลไกการทำงานและผลทดสอบ In Vitro

1. ยับยั้งการสร้าง biofilm ของเชื้อ C.albican กลไกที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลอย่างตรงจุด

• สาเหตุของโรคผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ แห้งคัน สะเก็ดเงิน รังแค สิวยีสตามใบหน้าและลำตัวที่เรื้อรังรุนแรง
• Candida albicans เป็นเชื้อยีสก่อโรคประเภทเชื้อฉวยโอกาส โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เกิดอาการโรคผิวหนังได้หลายแบบ รวมถึงผิวแพ้ง่าย แห้งคัน
• การก่อโรคที่รุนแรงของ C. albicans เกิดจากสร้างไบโอฟิล์มของเชื้อ (ฟีลม์บางๆ ที่ทำหน้าที่เป็นบ้านที่แข็งแรงให้เชื้อเกาะติดกับผิว)
• เชื้อที่อยู่ภายใต้ไบโอฟีลม์ (Sessile cell) จะทนทานสารเคมีฆ่าเชื้อ รวมทั้งภูมิคุ้มกันของร่างกายมากกว่าเชื้ออิสระที่อยู่ในสภาพปกติ (planktonic cell) และยังมีโอกาสพัฒนาจนเกิดการดื้อยาได้
• สาร Anti-fungai/Anti-bacteria หากไม่มีคุณสมบัติทำลายไบโอฟิล์มร่วมด้วย จะทำให้กำจัดเชื้อภายในไบโอฟีลม์ได้ยาก รักษาโรคไม่หายขาด
• การสร้างไบโอฟิล์มของ C. albicans จะเกิดขึ้นพร้อมๆกับการเจริญเติบโตของเชื้อ ประกอบด้วย 4 ระยะ

1. ระยะเซลล์ยึดเกาะกับพื้นผิวร่างกาย (attachment) เป็นระยะที่เซลล์อิสระ (Planktanic cell)
2. ระยะเซลล์เริ่มตั้งรกราก (microcolony) เริ่มสร้างไบโอฟิล์มและเพิ่มจำนวนเซลล์
3. ระยะเซลล์เจริญเติบโตเต็มที่ (maturation) และถูกห่อหุ้มด้วย Extracellular Polymeric Substance (EPS) ที่แข็งแรงทนทาน
4. ระยะการแพร่กระจาย (detachment) เชื้อมีความหนาแน่นจนบางส่วนเกิดกระจายออกจากไบโอฟิล์ม เพื่อไปยึดเกาะบริเวณพื้นผิวใหม่ ถือเป็นระยะลุกลามและก่อโรคที่รุนแรงมากขึ้น

2. ออกฤทธิ์ Anti-inflammation อย่างเห็นผล และ Anti-oxidant ที่โดดเด่น

ผลทดสอบ:

• Salixin สามารถทำลาย biofilm -ของเชื้อ C.albican ได้ถึง 100%
• Salixin เพียงแค่ 0.005% สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระได้เทียบเท่า Resveratol
• สามารถใช้ในสินค้า Anti-aging ได้อย่างผล

3. มีคุณสมบัติเป็น Pre-biotic รักษาความสมดุลของ Skin Microbiome อื่นๆ สร้างเกราะป้องกันผิวให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น

3. Genencare OSMS BA จากประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) หรือ Natural Betaine จากธรรมชาติที่ได้มาจาก Sugar beet (ชูการ์บีท) หรือ น้ำตาลหัวบีท/หัวผักกาด มอบความชุ่มชื้นผ่านกระบวนการ Osmosis โดยดึงน้ำจากบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง (มีน้ำมาก) ไปยังบริเวณที่ต่ำกว่า (มีน้ำน้อย) 

ช่วยปกป้องผิวกับเส้นผมจากสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น การถูกทำลายจากความร้อน  ช่วยปรับสัมผัสของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้ ช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะ  ให้ฟีลสัมผัสดุจแพรไหม และยังให้ความเปล่งประกาย และความนุ่มแก่เส้นผมสามารถละลายน้ำได้ ปรับใช้กับสูตรตำรับต่างได้ง่าย

4. BIOGENIC SA200 จากประเทศเกาหลี (Korea) หรือ salicylic acid หรือ BHA กรดตัวนี้จะสามารถเจาะลึกลงสู่ผิวและรูขุมขน ขจัดสิ่งสกปรกบนผิวและขจัดน้ำมันส่วนเกิน คุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ ขจัดรังแคและต้านการอักเสบได้ดี

5. D-Panthenol 100% (pro-vitamin B5) ซึ่งเป็นกรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid) ละลายได้ดีในน้ำ ทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้โดยปกติ วิตามินบี 5 ที่ร่างกายได้รับจากอาหารและการสังเคราะห์ในร่างกายนั้น มีหน้าที่ช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซม และสร้างเซลล์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย รวมถึงการสร้างภูมิต้านทานและต่อต้านการอักเสบในร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการสร้างผมให้แข็งแรงเงางามด้วย เมื่อนำมาทำให้อยู่ในรูปแบบของ Pro-Vitamin B5 (โปร-วิตามินบี 5) ที่เป็นของเหลว ละลายน้ำได้ดี ทำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการบำรุงผิวและผมได้มาก เพื่อช่วยเสริมการทำงานของวิตามินบี 5 ที่ได้รับจากอาหารและการสังเคราะห์เองในร่างกาย สำหรับผู้ที่ใส่ใจในสุขภาพผิว ผม

ประโยชน์ของ D-Panthenol

อย่างที่ได้กล่าวถึงประโยชน์ของ Vitamin B5 ไปบ้างแล้ว แต่ D-Panthenol หรือ Pro-Vitamin B5 ที่เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยังมีประโยชน์อีกหลายประการดังนี้

บำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดเลือนริ้วรอย

• D-Panthenol มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้น และช่วยกักเก็บความชุ่มน้ำบนผิวหน้าได้ ทำให้ผิวไม่แห้งเสีย แม้จะอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวหรืออากาศร้อนจัด ผิวหน้าที่ชุ่มชื้นจะดูเต็มอิ่มและเต่งตึงขึ้น ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าดูเลือนลง ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ หรือ มีริ้วรอย สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ D-Panthenol ได้ โดยอาจเลือกเป็นครีมบำรุง หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าก็ได้

เพิ่มเกราะป้องกันผิวให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพดีขึ้น

• สืบเนื่องจากการเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของ D-Panthenol เมื่อผิวมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ก็จะเสริมสร้างให้ผิวหน้าแข็งแรง ทนต่อสภาพอากาศ และมลภาวะได้มากกว่าผิวที่แห้ง เพราะผิวที่มีความฉ่ำน้ำ จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า อีกทั้งยังทำให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี

มีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้

• D-Panthenol มีส่วนช่วยในการยับยั้งการอักเสบในร่างกาย และบนผิวหนัง รวมถึงลดการระคายเคืองผิวได้ จึงเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ดี เพราะการระคายเคืองและการอักเสบนั้นเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ ใครที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสิวเหล่านี้ เราขอแนะนำให้ลองเลือกใช้เจลล้างหน้าเพื่อรักษาผิวหนังอักเสบ หรือครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ D-Panthenol เพื่อยับยั้งการเกิดสิวและลดปัญหาผิวอื่น ๆ ด้วย

ผิวกระจ่างใส เรียบเนียน

• นอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้น สร้างเกราะปกป้องผิว ลดการอักเสบและระคายเคืองแล้ว D-Panthenol ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน และกระจ่างใสด้วย ผิวหน้าที่หมองคล้ำจากแดดและมลภาวะ เมื่อได้รับการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ D-Panthenol ก็จะดูสว่างขึ้นด้วยการเข้าไปซ่อมแซมบริเวณที่ถูกแสงแดดและรังสีทำร้ายนั่นเอง

ช่วยในการรักษา สมานแผล ให้หายเร็วยิ่งขึ้น

• ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยซ่อมแซม ต่อต้านการอักเสบระคายเคือง และสร้างเกราะปกป้องผิวให้มีสุขภาพดีของ D-Panthenol เพียงแค่ทาด้วยครีมบำรุงหรือเจลที่มีส่วนผสมของ D-Panthenol อย่างสม่ำเสมอจะช่วยรักษาและสมานแผลบนผิวให้หายเร็วได้

หมายเหตุ : เพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง  เป็นเวลา 1-2 เดือน

Keyword : รับผลิตแชมพูขจัดรังแค , รับผลิต ANTI-DANDRUFF SHAMPOO, โรงงานรับผลิต ANTI-DANDRUFF SHAMPOO แชมพูขจัดรังแค